เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 13 ม.ค.59 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากนายสมพร บุญทวี อายุ 45 ปี ซึ่งพิการขาว่าโดนกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตในหมู่บ้านโกงเงินฝาก หลังฝากไว้ 13 ปี เมื่อได้รับแจ้งจึงได้เดินทางไปร่วมตรวจสอบหาข้อเท็จจริง ผลปรากฏว่า ที่ สภ.หลังสวน อ.หลังสวน จ.ชุมพร ได้รับแจ้งความจาก นายสมพร บุญทวี อายุ 45 ปี อยู่ หมู่ 13 ต.นาพญา อ.หลังสวน ซึ่งพิการขาทั้งสองข้างนั่งรถเข็น มาแจ้งความเอาไว้ที่ สภ.หลังสวน จริง โดยได้มีการรับแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานชัดเจน โดยพร้อมกับชาวบ้านอีก 4 คน ได้เล่าว่า มาแจ้งความกับ ร.ต.อ.หญิง หัทยา อ่าวเจริญ พนักงานสอบสวนพร้อมให้การว่า ได้นำเงินเบี้ยยังชีพของคนพิการไปฝากไว้กับกลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตหมู่บ้านโตนดห้าต้นซึ่งอยู่ในหมู่บ้าน
โด ยจะฝากเดือนละ 500 บาท นาน 13 ปี ซึ่งเป็นเงินคนพิการที่ได้รับมารวมเป็นจำนวนเงิน 78,000 บาท จนกระทั่งเมื่อเดือน มิ.ย. 58 ที่ผ่านมา ไปขอถอนเงิน เพื่อที่จะนำเงินไปซื้อสามล้อเครื่อง กลับถูกปฏิเสธจากประธานกลุ่มว่าไม่สามารถถอนเงินได้ เนื่องจากทางกลุ่มไม่มีเงินเพียงพอ และกำลังอยู่ระหว่างการเคลียร์บัญชีอยู่
หลังจากนั้นก็พยามติดต่อขอถอนเงินที่ฝากไว้มาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็ไม่สามารถถอนเงินได้ จนถึงปัจจุบันจึงเข้ามาแจ้งความกับตำรวจ พร้อมวิงวอนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามเงินมาให้ เพราะเงินจำนวนดังกล่าวตนจะนำไปซื้อสามล้อเครื่องสำหรับคนพิการ และจะเก็บไว้ใช้ยามเจ็บป่วย เนื่องจากอยู่ตัวคนเดียว ไม่มีใครดูแล
ด้านนางศิริพร บุญทวี อายุ 48 ปี สมาชิกและกรรมการกลุ่มออมทรัพย์ กล่าวว่า กลุ่มออมทรัพย์เพื่อการผลิตหมู่บ้านโตนดห้าต้น หมู่ที่ 3 ต.นาพญา อ.หลังสวน ก่อตั้งเมื่อปี 2554 มีสมาชิกประมาณ 110 คน มีนายสนิท แดงมณี อดีตผู้ใหญ่บ้าน เป็นประธานกลุ่ม และมีคณะกรรมการบริหารจำนวน 10 คน
เมื่อเดือนเมษายนปี 2558 เงินของกลุ่มที่ฝากไว้ที่ธนาคารหายไปจากบัญชีจำนวนมาก จึงได้ขอให้ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอหลังสวน มาร่วมสอบสวนหาสาเหตุ และพบว่ามียอดเงินที่หายไปถึง 890,000 บาท จึงขอให้อำเภอหลังสวนช่วยติดตามจากคณะกรรมการที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ก็ไม่มีคนออกมารับผิดชอบ
ทำให้ชาวบ้านและคณะกรรมการบางส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องพาชาวบ้านมาแจ้งความ โดยทยอยกันมาพร้อมวิงวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเจรากับกรรมการให้นำเงินมาคืนสมาชิกโดยเร็ว โดยในการนี้ได้มีการสอบถามไปยังผู้รับผิดชอบ กลับได้รับการบ่ายเบี่ยงในการตอบคำถามและปฏิเสธให้ไปถามคนนั้นคนนี้ เมื่อไปสอบถามปราฏกว่าบุคคลดังกล่าวนั้นไม่ได้อยู่ในพื้นที่ จึงอยากจะให้ทางการได้ออกมาร่วมกันสอบสวนการกระทำในครั้งนี้โดยด่วน
โด ยจะฝากเดือนละ 500 บาท นาน 13 ปี ซึ่งเป็นเงินคนพิการที่ได้รับมารวมเป็นจำนวนเงิน 78,000 บาท จนกระทั่งเมื่อเดือน มิ.ย. 58 ที่ผ่านมา ไปขอถอนเงิน เพื่อที่จะนำเงินไปซื้อสามล้อเครื่อง กลับถูกปฏิเสธจากประธานกลุ่มว่าไม่สามารถถอนเงินได้ เนื่องจากทางกลุ่มไม่มีเงินเพียงพอ และกำลังอยู่ระหว่างการเคลียร์บัญชีอยู่