ที่วัดกลางพระอารามหลวง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ก่อนที่จะเริ่มสวดอภิธรรม 2 นักแสดงหนุ่ม "ทีน"สราวุธ พุ่มทอง และ "อั๋น"วิทยา วสุไกรไพศาล ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว โดยทีนกล่าวว่า โดยส่วนตัว ตนทราบเรื่องราวอาการป่วยของปอมาโดยตลอด ได้คุยกับทางญาติและคุยกับทีมแพทย์ที่รักษา ได้รู้ถึงสาเหตุและอาการแทรกซ้อนทั้งหมด แต่พวกเราก็มีความเชื่อว่า ไม่ว่าจะ 5 เปอร์เซ็นต์ 10 เปอร์เซ็นต์ หรือ 30 เปอร์เซ็นต์ หรืออย่างไรก็แล้วแต่ เรามีความหวังว่าปอจะหาย เรามีความหวังมาตลอด แม้ว่าบางครั้งจะมีประกาศที่ฟังแล้วน่าใจหาย แต่เราก็ยังมีหวังว่าถ้าปอสู้ พวกเราสู้ ทีมหมอสู้ ปาฏิหาริย์มันต้องเกิดขึ้น แต่พอวันนี้ไม่เป็นอย่างที่เราคาดหวัง

อั๋น เสริมว่า ปอเขาก็สู้ คุณหมอก็สู้ ทุกๆ คนเอาใจช่วยปอ ตอนนี้อาจจะเป็นเวลาของเขา เพราะทุกคนเต็มที่แล้ว พวกเราหวังว่าปอจะไปภพภูมิที่ดี เพราะเขาเป็นคนดี ทำประโยชน์ต่อสังคมมาตลอด ดูได้จากคนที่มาร่วมงาน ทุกคนรักปอมาก
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ทั้ง 2 คนจะมาฟังสวดพระอภิธรรมทุกวันไหม ทีนตอบว่า "คงไม่ได้มาทุกวัน เพราะมีภารกิจของแต่ละคน แต่วันฌาปนกิจ ผมจะพยายามเคลียร์งานให้ได้ เพื่อจะมาส่งปอ"
เมื่อถามว่า หลายคนเป็นห่วงน้องมะลิ ในฐานะที่เราเป็นเพื่อนสนิทรู้สึกยังไงบ้าง ทีนกล่าวว่า เชื่อว่าน้องมะลิจะมีญาติผู้ใหญ่ใจดีเพื่อนๆ ของปอที่ให้ความเอ็นดูและดูไม่มากก็น้อย ตนเชื่ออย่างนั้น จะไม่มีใครละทิ้งครอบครัวนี้เด็ดขาด โดยเฉพาะแม่โบว์ และตนเชื่อว่าทุกคนในวงการพร้อมที่จะยื่นมือเข้ามาดูแล
อั๋นกล่าวต่อว่า ทุกคนเอ็นดูน้องมะลิ ที่ผ่านมาทุกคนรักน้อง ก็ขอให้รักแบบนี้ตลอดไป
เมื่อถามว่า ให้กำลังใจพี่โบว์ยังไงบ้าง ทีนกล่าวว่า คงพูดอะไรได้ไม่มาก คงทำให้แค่บอกให้เขาเข้มแข็งสู้นะ เพราะตนและอั๋นก็อยู่ข้างๆ ถ้าต้องการอะไรก็บอก พวกเราสามารถทำได้เท่าที่มันไม่เกินกำลังของพวกเราเกินไป พวกเราก็จะทำ
ถามว่า มีอะไรอยากบอกปอบ้าง ทีนกล่าวว่า "เหนื่อยมาเยอะนะ สู้มามากกว่าใครหลายๆ คน ที่สามารถต่อสู้ได้มากมายขนาดนี้ ขอให้ปอได้อยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้นไป อย่าเป็นกังวลอย่าห่วงพักผ่อนให้สบาย ที่เหลือทางนี้พวกเราจะคอยทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุด ถ้าเป็นไปได้อนาคตเราคงได้เจอกันอีก
อั๋นกล่าวทิ้งท้ายว่า "เราได้เจอกันแน่นอน ทุกคนต้องไปจากโลกนี้ยังไงเขาไปรอก่อนพวกเราค่อยตามไป"

ต่อมา นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด ให้สัมภาษณ์ว่า "รู้สึกไม่ดีนะ เพราะปอเป็นหลานชาย อายุยังน้อยอยู่ วันนี้มีเหตุที่ไม่ควรเกิด ก็เสียใจ ตั้งแต่ผมกับเขาและคุณพ่อเขา เล่นตะกร้อมาด้วยกัน จนกระทั่งปอมาทำงานเป็นศิลปิน ได้มีโอกาสมาร่วมงานกับบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เป้าหมายไม่ต่างกัน คือเราจะทำให้คนรู้จักบุรีรัมย์ เป็นความภาคภูมิใจ เราก็ช่วยทำงานกันมาตลอด
เนวินกล่าวว่า เขาก็เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกันโปรโมทบุรีรัมย์ให้คนรู้จัก วันนี้จะพูดยังไงก็เป็นประเพณีสำหรับคนที่เรารัก มีเหตุที่ต้องจากกันอย่างน้อยก็ได้มาแสดงความระลึกถึงกัน เมื่อสักครู่ก็คุยกับพ่อ เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาคุยกันเรื่องนั้น หลังจากเสร็จงานศพ เดี๋ยวจะใหัโบว์มาคุยว่าจะทำอย่างไร ถ้าอะไรที่ผมทำให้ได้ผมก็ยินดีที่จะมาช่วย เป็นความตั้งใจของเราที่จะช่วยลูกหลาน ยามตอนที่เขาอยู่เขาทำประโยชน์ให้กับบุรีรัมย์ ยามที่เขาไม่อยู่อะไรที่เป็นภาระของเขา ก็เป็นหน้าที่ของคนที่อยู่ที่จะช่วยเหลือดูแลต่อไป

ส่วนนางกรุณา ชิดชอบ ภรรยานายเนวิน ให้สัมภาษณ์ต่อว่า "ที่บ้านเราสนิทกับปอและโบว์ดี เพราะทุกๆ เทศกาลเขาจะมาจอยกับเราอย่างดี แม้จะเป็นช่วงที่เขาขาเจ็บเขาก็ยังไปดูแข่งรถ เราไม่ใช่ญาติแต่เหมือนญาติเพราะเราเจอกันบ่อยมาก และติดตามข่าวเขามาตลอด อย่างตอนเขาตัดเท้า เราก็ทราบ เลยสั่งทำเสื้อ fight for Por ให้เด็กๆ ในทีมใส่ลงสนามเลย ซึ่งเราไม่ทำขายเพราะเราทำเพื่ออยากให้มีปาฏิหาริย์ อยากทำอะไรก็ได้ให้ปอรู้ว่ายังมีคนรักเขาเยอะแยะ คนทั้งประเทศส่งใจไปช่วยเขา อะไรที่ทำได้ก็จะทำ"
ถามต่อว่าปอเป็นคนยังไง นางกรุณาตอบว่า "ปอเป็นคนง่ายๆ ติดดินและขี้เมา(ยิ้ม) เวลาเรามาเจอกัน เวลามีการแสดงอะไร เราดึงมือเขาขึ้นเวที ถามว่าเมาหรือยัง เขาก็บอกว่ายัง แต่ตาหวานไปแล้ว (ยิ้ม) เขาทั้ง 2 คนเป็นคนง่ายๆ ทั้งปอและโบว์ มันเกิดจากความผูกพัน เราติดตามข่าวเขาทุกวัน จริงๆ เราทราบแล้วว่าเขาเสียตั้งแต่ 11 โมง เราก็ตกใจ เขียนข้อความเอาไว้แต่ไม่กล้าลง เพราะทางโรงพยาบาลยังไม่ได้มีประกาศออกมา
นางกรุณากล่าวว่า ทุกอย่างมันรู้สึกอยู่ข้างในว่าทำไมเขาไปไวแบบนี้ มันไม่ควรเลย ส่วนหนึ่งเห็นภาพน้องมะลิจากสื่อก็สงสารลูกเขาเพราะยังเล็กมากที่ต้องมารับรู้เรื่องแบบนี้ ความรู้สึกของคนเป็นแม่มันรู้ว่า คนที่นอนป่วยอยู่ก็ทุกข์อยู่แล้ว คนไปเฝ้าก็ทุกข์อยู่แล้ว กับโบว์เองตอนนี้เราคงยังไม่คุยอะไรกันตอนนี้เพราะเขายังเศร้าอยู่ ตอนนี้รู้สึกว่ามีพ่อของปอที่พอตั้งหลักได้ ส่วนโบว์ยังเศร้าอยู่ ใจยังไม่นิ่งพอ คงต้องรอให้ใจเขานิ่งพอก่อนค่อยคุยกันว่าอยากให้เราทำอะไรหรือช่วยเหลืออะไร เราก็พร้อมที่จะช่วยเหลือ
ก่อนหน้านี้มีเสื้อ Fight for POr ออกมา คราวนี้จะมีอีกไหม นางกรุณรากล่าวว่า "ขอคิดดูก่อนค่ะ เพราะทำอะไร เราก็ไม่อยากให้คนกล่าวหาว่าเราเกาะกระแสปอ จริงๆ การที่น้องมะลิใส่เสื้อบุรีรัมย์ยูไนเต็ดเราก็ไม่ได้ต้องการจะเกาะกระแส ถ้าคนที่รู้จักเขาดีเขาจะมาซื้อของที่ช็อปเราบ่อยมาก มันไม่จำเป็นที่เราต้องไปเกาะกระแสเพราะเราสนิทกันอยู่แล้ว ปอเขาเคยไปที่บ้านแล้วเด็กรับใช้เขาก็ไม่รู้เรื่องยังบอกให้ปอช่วยยกนั่นนี่ เขาก็ช่วย
จากนั้น ปิน-ชวนันท์ สหวงษ์ น้องชายของ ปอ-ทฤษฎี คนสุดท้อง กล่าวว่า "สำหรับวันนี้ก็มีเพื่อนคุณพ่อคุณแม่เดินทางมาเยอะแยะเต็มไปหมด ซึ่งในส่วนของการจัดงานเราก็ค่อนข้างโชคดีตรงที่คุณพ่อมีทีมงานคอยซัพพอร์ต ตัวผมเองก็ต้องขอบคุณมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์และก็เพื่อนๆ ทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด รวมถึงชาวบุรีรัมย์ทุกคนที่มาช่วยงานกันในวันนี้"

ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่อง โบว์-แวนดา สหวงษ์ และ น้องมะลิ ถึงอนาคตว่าจะทำอย่างไรต่อไป ปินกล่าวว่า "สำหรับเรื่องการดูแลพี่โบว์และน้องมะลิหลังจากนี้ผมถือว่าสบายมาก ถ้าเทียบกับสิ่งที่พี่ปอทำให้ผมมันมากกว่านี้เยอะ ถามว่าผมให้กำลังใจพี่โบว์ยังไงบ้าง ผมเชื่อว่าพี่ปอต้องรู้ดี ว่าพี่โบว์และน้องมะลิเป็นตัวแทนของพี่ พี่โบว์คือพี่สาวผม มะลิคือหลานผม ทุกคนคือคนในครอบครัวเดียวกัน สำหรับอนาคตของมะลิหลังจากนี้ คงต้องขอให้เขาเรียนก่อน ส่วนเรื่องในอนาคตให้คุณแม่ของเขาเป็นคนตัดสินใจ คือเราก็ให้น้องอยู่ที่กรุงเทพดีกว่า คุณย่าก็จะไปช่วยเลี้ยงหลานที่นั่นด้วย"

เมื่อถามถึง ที่ดินที่ปอซื้อให้พ่อนั้น ปินกล่าวต่อว่า "ในส่วนของโครงการบ้านสวนของพี่ปอ เราจะให้คุณพ่อเป็นคนดูแล พ่อท่านชอบอยู่แล้ว อีกอย่างสวนนั้นพี่ปอก็ซื้อให้คุณพ่อตั้งแต่แรกด้วย เพราะอยากให้ท่านมีกิจกรรมทำหลังเกษียณ ทุกโครงการของพี่ปอยังมีเหมือนเดิม"

ต่อมาเวลา 21.39 น. ในระหว่างที่ น้องๆนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยราชภัฎบุรีรัมย์กำลังช่วยกันแขวนพวงหรีดจากบรรดาผู้ที่ส่งมาร่วมไว้อาลัยให้กับปอ-ทฤษฎี ซึ่งมีจำนวนมาก ก็เกิดเหตุการณ์ ไฟดับที่ศาลา และทั่วทั้งบริเวณวัดทั้งหมด