[Thai News555]:โดนแล้วไง !! นายกออกมาบอก กับคดีฆ่าข่มขืน = ประหาร” ล่าสุดต้องท่านบอกแบบนี้ !?

จากกรณีคดีสุดสะเทือนขวัญ วัยรุ่นชาว จ.พัทลุงจำนวน 4 คนได้ก่อเหตุฆ่าผู้ชายแล้วฝังดิน จากนั้นได้ข่มขืนสาวท้อง 3 เดือนแล้วพยายามฆ่าโดยการแทงเข้าที่ร่างกายแล้วนำร่างไปโยนทิ้งเหวลึก จากเหตุการณ์นี้เองทำให้เป็นที่สนใจของประชาชนอย่างมาก และมีการรณรงค์ให้แก้ไขกฎหมาย ข่มขืน = ประหาร 







                ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้พูดถึงเรื่องดังกล่าวว่า ตนได้เปิดดูโทรทัศน์มีคนเสนอว่าคดีข่มขืนให้ประหารชีวิต คดีอะไรที่ร้ายแรงต้องประหารชีวิตทั้งหมด นี่คือคนไทยที่มีแต่ความสุดโต่งเหมือนกับการตัดสินของเปาบุ้นจิ้น ซึ่งจะประหารชีวิตอย่างเดียวไม่ได้ เพราะกฎหมายมีขั้นตอน และปัญหาไม่ได้อยู่ที่กฎหมาย แต่อยู่ที่การบังคับใช้กฎหมายว่าทำได้หรือไม่ได้ และจิตสำนึกของคน






             ด้านพล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า โดยส่วนตัวนายกฯ เข้าใจหัวอกของคนเป็นพ่อแม่และญาติพี่น้องของผู้เสียหาย และรู้สึกเจ็บปวด ไม่พอใจผู้กระทำผิดเช่นเดียวกับคนทั่วไป แต่นายกฯ ก็ต้องมองปัญหาในฐานะที่เป็นรัฐบาล ซึ่งจะต้องพิจารณาในภาพรวมอย่างรอบคอบและเป็นสากลด้วย ในมุมตรงกันข้ามหากใช้ยาแรงหรือบังคับใช้กฎหมายอย่างรุนแรงที่สุด อาจยิ่งส่งเสริมให้ผู้กระทำผิดทำร้ายเหยื่อจนถึงแก่ชีวิต เพราะคิดว่า จะได้ไม่เหลือหลักฐานสำหรับการเอาผิดตนเอง ซึ่งจะมีผลถึงการรับโทษขั้นรุนแรง เรื่องนี้จึงเป็นเรื่องที่มีความละเอียดอ่อน


               นอกจากนี้คำว่า “สุดโต่ง” ที่ท่านนายกฯ กล่าวนั้น ไม่ได้หมายความว่านายกฯจะปกป้อง หรือเข้าข้างผู้กระทำผิด แต่ต้องการให้สังคมร่วมกันพิจารณาอย่างรอบคอบว่า แท้จริงแล้วต้นเหตุของปัญหาคืออะไร การใช้กฎหมายรุนแรงบังคับแต่เพียงอย่างเดียว จะแก้ไขปัญหาได้จริงหรือไม่ โดยนายกฯ เห็นว่า การแก้ปัญหาดังกล่าวจะต้องดูหลายมิติ ทั้งเรื่องกฎหมาย การสร้างจิตสำนึกที่ดี การสร้างความเข้มแข็งของครอบครัวและสังคม หากใช้กฎหมายหนักขึ้นเรื่อยๆ แต่ไม่สามารถยุติปัญหาได้ก็ต้องพึงระวัง ทั้งนี้นายกฯ ได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมไปศึกษาข้อมูลและหาทางออกในเรื่องดังกล่าว โดยนำกรณีศึกษาจากประเทศต่าง ๆ มาเปรียบเทียบด้วย เพื่อให้เกิดการยอมรับตามหลักสากล

















Share on Google Plus